สุราษฎร์ก็ไม่ต่าง! ป.ป.ท. พบอีก ความผิดปกติรับเงินสงเคราะห์ฯ

2018-02-19 13:30:38

สุราษฎร์ก็ไม่ต่าง! ป.ป.ท. พบอีก ความผิดปกติรับเงินสงเคราะห์ฯ

Advertisement

ป.ป.ท. ลงพื้นที่เข้าสอบปากคำบุคคลที่มีรายชื่อเป็นผู้รับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่พึ่งของศูนย์คุ้มครองผู้ยากไร้ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นพบความผิดปกติเช่นเดียวกับจังหวัดอื่นที่ตรวจสอบไปแล้วก่อนหน้านี้ 


เมื่อวันที่ 19 ก.พ. พ.ต.ท. วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) พร้อมคณะลงพื้นที่ ที่องค์การบริหารส่วนตำบลช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เข้าสอบปากคำบุคคลที่มีรายชื่อ เป็นผู้รับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่พึ่งของศูนย์คุ้มครองผู้ยากไร้ ซึ่งพบความผิดปกติ เหมือน จ.เชียงใหม่ ขอนแก่น และกำลังเร่งตรวจสอบ ที่ จ.หนองคาย บึงกาฬ และ จ.สุราษฎร์ธานี รวมเบื้องต้น 5 จังหวัด


จากการตรวจสอบในพื้นที่ ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานีในเบื้องต้นพบว่า มีรายชื่อผู้ได้รับเงินดังกล่าวกว่า 200 คน ซึ่งจะได้รับเงินใส่ซองตามรายชื่อ จำนวน 2,000 บาท พร้อมกันนั้นได้เชิญผู้ใหญ่บ้านใน ต.ช้างซ้าย จำนวน 3 คน ซึ่งปรากฎชื่อเป็นผู้รับเงินคนยากไร้ด้วย โดยเจ้าหน้าที่ ได้นำเอกสารที่มีลายเซ็นรับเงินมาแสดงว่าเป็นผู้รับเงินโครงการดังกล่าวจำนวน 3,000 บาท แต่ผู้ใหญ่บ้านทั้งหมดได้ปฏิเสธว่า ไม่ได้รับเงินโครงการดังกล่าว แต่ยอมรับว่าเคยได้เซ็นเอกสารเปล่าให้กับเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเดือน มี.ค. 2560 ในการรับเบี้ยเลี้ยงการฝึกอบรมหลักสูตรการเดินไฟฟ้าในอาคาร เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา


นายวิจารณ์ หนูรักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้มีลายเซ็นในรายชื่อรับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า ลายมือชื่อดังกล่าวเป็นของตนเองจริงแต่ได้เซ็นไว้ขณะอบรมหลักสูตร การเดินไฟฟ้าในอาคาร ซึ่งตนเองมีทรัพย์สิน ทั้งรถยนต์ บ้านและที่ดิน ไม่มีความจำเป็นในการรับเงินดังกล่าวและไม่รู้เห็นในความผิดปกติ และในส่วนของลูกบ้านตนเอง ได้มีการคัดเลือกคนจนในพื้นที่ จำนวน 12 คน เพื่อรับเงินจากโครงการดังกล่าว ซึ่งทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจะนำเงินจำนวน 2,000 บาทใส่ซองมอบให้ โดยไม่ต้องเซ็นชื่อในเอกสาร และทราบเมื่อวานนี้(18 ก.พ.) ที่ทางเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. แจ้งยอดเงินจริง เพื่อจะเข้าสอบปากคำหลังพบรายชื่อผู้ใหญ่บ้านและลูกบ้านที่มีความผิดปกติในการรับเงิน




พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงาน ป.ป.ท. กล่าวว่า ในเบื้องต้นพบว่า การทุจริตมีการกระทำเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.จ่ายเงินไม่ครบตามจำนวน ตามที่ได้ลงไว้ในใบสำคัญรับเงิน และ 2.ใช้ชื่อบุคคลเพื่อสวมสิทธิ์ แต่บุคคลนั้นไม่ได้รับเงินจริง และการตรวจสอบในขณะนี้ จำนวน 5 จังหวัด ทั้ง 4 ภูมิภาคพบว่า ทั้งหมดมีวิธีการที่เหมือนกัน ในส่วน จ.สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่แรก ก็พบว่ามีความผิดปกติ ซึ่งจะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่ อ.ดอนสัก บ้านนาสาร และทั้งหมดต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ทางคณะเจ้าหน้าที่สอบสวน จะได้รวบรวมพยานหลักฐาน เสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ท. เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตต่อไป