“หมอล็อต”เตือนรถบรรทุกอ้อยอย่าจอดนิ่งให้ “พี่ด้วน”กิน ชี้ทำให้เสียพฤติกรรม เสียภาพลักษณ์ช้างป่า แนะค่อย ๆขับไปข้างหน้าช้า ๆ
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน หรือ “หมอล็อต” สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพผ่านเฟซบุ๊ก “ภัทรพล ล็อต มณีอ่อน” ระบุว่า "แค่จอดรอก็เท่ากับการเจตนาให้ เมื่อพี่ด้วนเดินมาข้างรถแล้ว ให้เคลื่อนรถเดินหน้าไปช้า ๆนะครับ อย่าจอดรถนิ่ง เพราะจะยิ่งเป็นการส่งเสริมให้เสียพฤติกรรมและภาพลักษณ์ของช้างป่าเอง ช้างป่าปล้นอ้อย ก็น่าจะเห็นงาจี้คอคนขับเนอะ 5555 ช่วยกันปฎิบัติกันนะครับ การแก้ไขเรื่องนี้ทำได้ไม่ยาก แต่ขอให้เริ่มตรงนี้ก่อน จอดคือให้ ห้ามให้อาหารช้างป่า”
“หมอล็อต”ให้สัมภาษณ์ “นิว18”ว่า ตอนนี้พี่ด้วนมี 2 ตัว คือ พี่ด้วนที่เขาใหญ่ กำลังเกี้ยวพาราสีจะผสมพันธุ์กับช้างตัวเมียอยู่ ส่วนพี่ด้วนอีกตัวที่เห็นอยู่กับรถบรรทุกอ้อย เป็นพี่ด้วนที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน อยู่บนถนนทางหลวงเส้น 3259 พี่ด้วนตัวนี้จะมาเป็นฤดูกาล ช่วงนี้ตัดอ้อย รถบรรทุกอ้อยส่งโรงงาน พี่ด้วนรับรู้กลิ่นอ้อยจากที่คนเผาก่อนตัด และรู้ว่ารถมาจากแรงสั่นสะเทือน ก็มาดักกลางถนน ไปรื้ออ้อยกิน รวมทั้งรถบรรทุกมันสำปะหลังพี่ด้วนได้กลิ่นก็จะไปรื้อผ้าใบ เอามันสำปะหลังออกมากินเช่นกัน
“คนที่ขับรถสิบล้อก็รู้ ตั้งใจจอดให้กิน ผมรู้สึกไม่สบายใจ ที่ทำให้ช้างถูกมองว่าตั้งด่านลอย ปล้นอ้อย เก็บส่วย มันไม่ยุติธรรม และดูไม่ดีสำหรับช้าง แนะนำว่ารถบรรทุกที่ขับผ่านให้ขับไปด้านหน้าช้า ๆ ไม่ต้องหยุด ไม่ต้องกลัวว่าจะชนช้าง เพราะเขาหลบรถอยู่แล้ว”หมอล็อต กล่าว
หมอล็อต บอกด้วยว่า ในอดีตปล่อยให้รถวิ่งผ่านป่า 24 ชม.พบว่ามีสัตว์ป่าตาย 14,000 ตัวต่อปี แต่หลังปี 2541 มีการจำกัดเวลาในการวิ่งเปิด ปิดถนนเพื่อแก้ปัญหา ทั้งนี้สัตว์ป่าจะออกมาหากินบนถนนเยอะมาก เช่น กระทิง วัวแดง ช้าง สัตว์ขนาดเล็ก เพราะสัตว์ป่าชอบหากินที่โล่ง ข้างทางมีหญ้ามีอาหาร พื้นถนนอบอุ่น พอมีการปิดถนนเป็นเวลา สัตว์ป่ารู้ว่ามีเวลาการใช้ถนนเพิ่มมากขึ้น โดยเพาะช่วงค่ำ การระวังภัยอาจจะลดน้อยลง อุบัติเหตุก็เกิดขึ้น