จับแม่ค้าลาว!ลักลอบค้าสัตว์ป่าชายแดนหนองคาย

2018-02-18 13:50:24

จับแม่ค้าลาว!ลักลอบค้าสัตว์ป่าชายแดนหนองคาย

Advertisement

ผวจ.หนองคาย ลงพื้นที่ตรวจตลาดชายแดนไทย- ลาว เจอคนลาวลอบนำซากอีเห็น กระรอก มาขาย ก่อนทิ้งของกลางหนีกระเจิง ส่วนอีกรายเป็นหญิงลาวนำหนังเสือปลาเต็มผืนวางขาย เร่งกำชับทุกหน่วยงานดูแล จัดระเบียบ


เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 ก.พ. ที่ตลาดจุดผ่อนปรนไทย – ลาว บ้านเปงจาน ต.โพนแพง อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.หนองคาย พร้อมด้วยนายโชคชัย วัฒนกุล นายอำเภอรัตนวาปี และเจ้าหน้าที่ตรวจเยี่ยมตลาดจุดผ่อนปรน เพื่อป้องปรามการกระทำความผิด การลักลอบค้าสัตว์ป่า สัตว์สงวน พืชสงวน ทั้งตามสนธิสัญญาไซเตสและกฎหมายของประเทศไทย


 

ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบชาวลาว โดยส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้า นำสิ่งของจะเข้ามาวางขายในตลาด ก็พบถุงพลาสติกบรรจุซากอีเห็นข้างลาย หรืออีเห็นธรรมดา เพศผู้ อายุประมาณ 2 ปี จำนวน 1 ตัว ซึ่งเป็นสัตว์ในบัญชีไซเตสห้ามนำเข้าประเทศ และกระรอกหน้ากระแต อายุประมาณ 2 ปี โตเต็มวัยแล้ว โดยเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกเลี้ยงลูกด้วยนม ถูกทิ้งไว้ในกอหญ้า คาดว่าจะนำเข้ามาวางขายให้กับผู้ที่ชื่นชอบรับประทานสัตว์ป่าหายาก แต่พอเห็นเจ้าหน้าที่จึงทิ้งซากสัตว์ป่าไว้ 


ต่อมา นายสมเกียรติ สุสัณพูลทอง ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.หนองคาย, นายประสิทธิ์ พุทธบูชา หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าหนองคาย และเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการจับกุมนางยอ เทา อายุ 43 ปี ชาวม้งลาว เมืองไซทานี แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว แม่ค้าขายยาสมุนไพรในตลาดจุดผ่อนปรน แต่กลับนำหนังเสือปลาเต็มผืน อายุประมาณ 10 ปี ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองมาวางขายด้วย นอกจากนี้ยังพบแผ่นหนังช้างถูกหั่นเป็นชิ้นอีกหนึ่งชิ้น น้ำหนัก 1 ขีดด้วย โดยนางยอ บอกว่า หนังเสือไม่ใช่ของตนเองแต่เป็นของเพื่อนอีกคนหนึ่งฝากวางขายให้ ถ้ามีคนสนใจก็จะขายในราคา 600-700 บาท


ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผวจ.หนองคาย จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแล เข้มงวดตามแนวชายแดนเพิ่มมากขึ้น พร้อมใช้กำลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านมาช่วยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงาม ให้เป็นตลาดที่น่าซื้อ รวบรวมข้อมูลสถิติสินค้านำเข้าและส่งออกของตลาดในแต่ละวันที่เปิดให้บริการ นอกจากนี้ทางรัฐบาลยังให้พิจารณาจัดตั้งจุดผ่อนปรนตามแนวชายแดนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้า ซึ่งจะได้หารือร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาว่าจะสามารถเปิดจุดผ่อนปรนเพิ่มเติมได้หรือไม่ โดยต้องคำนึงถึงศักยภาพและความมั่นคงของประเทศเป็นหลัก