คาดทุจริตสวมสิทธิ์คนไร้ที่พึ่งเชียงใหม่ 8.5 ล้าน

2018-02-16 18:35:40

คาดทุจริตสวมสิทธิ์คนไร้ที่พึ่งเชียงใหม่ 8.5 ล้าน

Advertisement

ป.ป.ท.พบทุจริตสวมสิทธิ์คนไร้ที่พึ่งเบิกเงินใน จ.เชียงใหม่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 8.5 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจกลุ่มคนไร้ที่พึ่งที่ปรากฏตามเอกสารการขอเบิกเงินช่วยเหลือจากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง  จ.เชียงใหม่ มีผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือกว่า 1,000 ราย โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจที่ อ.สันกำแพง และ อ.สันป่าตอง โดยที่อ.สันกำแพง เจ้าหน้าที่สุ่มตรวจจำนวน 10 คนที่ปรากฏรายชื่อว่ามีผู้ได้รับเงินช่วยเหลือจริง 2 ราย อีก 8 รายไม่เคยรู้เรื่องการช่วยเหลือเหล่านี้มาก่อน แต่มีเอกสารทุกอย่างพร้อมลายเซ็นไปยื่นขอช่วยเหลือ ส่วนที่ อ.สันป่าตอง สุ่มตรวจ 10 ราย ก็ปรากฏว่าไม่มีใครได้รับเงินเลย



นางจันทร์ หยดต๋า อายุ 75 ปีอยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 6 ต.สันกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าวันนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. มาพบแล้วนำเอกสารทั้งใบคำร้อง ใบรับเงิน เอกสารบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้านที่มีลายเซ็นไปรับเงินช่วยเหลือ ตนเองเกิดมายังเขียนหนังสือไม่ได้ ไม่เคยเขียนหนังสือหรือเซ็นชื่อมาก่อนเลย ทุกครั้งที่ทำธุรกรรมกับทางอำเภอก็จะใช้ปั๊มลายมือแทนการเขียนมาตลอด ตกใจที่มีชื่อไปขอรับความช่วยเหลือพร้อมหลักฐานทุกอย่าง แต่ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐเลย นอกจากเงินยังชีพผู้สูงอายุเท่านั้น

ส่วนนายตา เรือนใจ อายุ 69 ปีอยู่บ้านเลขที่ 30/1 หมู่ที่ 6 ต.สันกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ผู้พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เปิดเผยว่าไม่เคยได้รับการช่วยเหลือมาก่อน ก็ไม่เข้าใจว่ามีการไปเซ็นรับเงินช่วยเหลือได้อย่างไร





ด้านนายสัญชาติ อุปนันชัย ผอ.กองอำนวยการต่อต้านการทุจริต ป.ป.ท. เปิดเผยว่า ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จากการสุ่มตรวจสอบ จำนวน 2 อำเภอ คือ อ.สันกำแพง และอ.สันป่าตอง พบว่าชาวบานไม่รู้เรื่องการรับเงิน ไม่ได้รับรองเอกสารที่เบิกจ่าย ไม่รู้ว่าเอาเอกสารไปได้อย่างไร ชาวบ้านเขียนหนังสือไม่ได้ แต่มีลายเซ็น ซึ่งจากการสอบถามและพูดคุยส่วนใหญ่จะใช้การปั๊มลายนิ้วมือแทน โดยที่อ.สันกำแพง นั้นได้ตรวจสอบประมาณ 70 กว่าราย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบถามแต่ละหมู่บ้าน ช่วงแรกที่สอบถามพบแล้ว 10 กว่าราย กลุ่มที่เรียกมาสอบถามในเบื้องต้นได้เจาะจงกลุ่มผู้ยากไร้และมีรายได้น้อยก่อน เนื่องจากเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งจ.เชียงใหม่ มีประมาณ 1,000 กว่าราย ส่วนกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี และกลุ่มส่งเสริมอาชีพ กลุ่มนี้จะมีน้อยแค่ 100 กว่าราย โดยในส่วนของ อ.สันป่าตอง ก็เช่นเดียวกัน จากการสอบถามในหมู่บ้านเดียว กลุ่มผู้สูงอายุที่ยากไร้ และมีรายได้น้อย ประมาณ 15 ราย พบว่าเขียนหนังสือไม่ได้ แต่มีลายเซ็นในเอกสารเหมือนกัน ซึ่งในภาพรวมขณะนี้คาดว่าน่าจะมีประมาณ 30 ราย ที่ตรวจพบในเบื้องต้น แต่คงจะมีมากกว่านี้ ขณะนี้ยังสอบถามจากชาวบ้านยังไม่หมดทุกคน

สำหรับเรื่องของการเบิกจ่ายนั้น นายสัญชาติ กล่าวว่า ทราบว่า ศูนย์พึ่งพิงจ.เชียงใหม่ ได้รับงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท แบ่งเป็นการนำมาเบิกจ่ายเบี้ยให้กับผู้ยากไร้ และกลุ่มต่างๆ 8.5 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะนำมาใช้จ่ายในการบริหารศูนย์พึ่งพิงซึ่งงบประมาณดังกล่าว เป็นการบริหารงบประมาณและการเบิกจ่ายในห้วงวันที่ 1 ต.ค. 2559 - 30 ก.ย. 2560 ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ มูลค่าความเสียหายน่าจะเกิน 8.5 ล้านบาท ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนในส่วนของจ.เชียงใหม่ ยังไม่ได้ตั้ง แต่ที่จ.ขอนแก่น ได้ตั้งขึ้นมาแล้ว ซึ่ง จ.เชียงใหม่นั้นคาดว่าน่าจะประมาณสัปดาห์หน้า โดยจะทำการสอบสวนตั้งแต่ ผอ.ศูนย์ จนถึงผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้อง ส่วนการจะโยงไปถึงไหนและใครบ้างต้องดูที่พยานหลักฐานอีกครั้ง