“เรืองไกร”ยื่น ป.ป.ช.สอบกรณี “บิ๊กอ๊อด”ยืมเงิน“เสี่ยกำพล” 300 ล้านบาท ชี้หากไม่เสียดอกเบี้ยเข้าข่ายได้รับผลประโยชน์อื่นใด ตามมาตรา 103 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เดินทางไปยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่ามีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินจากเงินกู้ยืม 300 ล้านบาท ถูกต้องครบถ้วน หรือไม่ และมีการรับประโยชน์อื่นใดอันฝ่าฝืนกฎหมาย ป.ป.ช. หรือไม่ ซึ่งไม่ติดใจกรณีที่ไม่พบเงินที่กู้ยืม 300 ล้านบาทในบัญชีทรัพย์สินของ พล.ต.อ.สมยศ เพราะจากการชี้แจงระบุว่าเป็นการกู้ยืมในช่วงปี 2558 ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินเมื่อครั้งเข้าดำรงตำแหน่ง สนช.แล้ว ทั้งนี้ขอให้ตรวจสอบว่าหนี้เงินกู้ 300 ล้านบาท มีการแจ้งต่อ ป.ป.ช.อย่างถูกต้องหรือไม่ หนี้เงินกู้ดังกล่าวมีการทำสัญญากู้ยืมเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ มีการรับเงินและคืนเงินผ่านธุรกรรมทางธนาคารจริงหรือไม่ และการกู้ยืมเงินดังกล่าวได้เสียดอกเบี้ยให้กับนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครทหรือไม่ หากไม่มีการเสียดอกเบี้ยจะเข้าข่ายได้รับผลประโยชน์อื่นใด ตามมาตรา 103 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และมีโทษตามมาตรา 122 ระวางโทษจำคุกไม่เกิด 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขอให้ส่งเรื่องให้กรมสรรพากรตรวจสอบในประเด็นภาษีจากเงินกู้ยืมด้วย