แพทย์จีนเตือน สิ่งแรกหลังตื่นนอนไม่ใช่ยืนขึ้น

2018-01-30 12:45:40

แพทย์จีนเตือน สิ่งแรกหลังตื่นนอนไม่ใช่ยืนขึ้น

Advertisement

แพทย์แผนจีนออกมาระบุ สิ่งที่ควรทำหลังการตื่นนอน ไม่ใช่การรีบลุกขึ้นยืน แต่มีสิ่งที่ควรกระทำหลังการตื่น ซึ่งควรจะทำทุกเช้า เพื่อสุขภาพที่ดี






การดึงตัวเองขึ้นจากเตียงในตอนเช้า มักจะเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน มีการสำรวจว่า  70-80% ของโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคหลอดเลือดในสมองเกิดในตอนเช้าเวลา 6.00-10.00น.






โดยจากการสังเกตผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจจะมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ความดันขึ้นสูง เส้นเลือดในสมองแตก มักจะเกิดอาการในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด ก็คือ ตอนที่เพิ่งตื่นนอนใหม่ๆ สาเหตุที่ระบุชัด คือ  เมื่อตื่นแล้วก็รีบลุกขึ้น ในขณะที่ร่างกายอยู่ในสภาพยังนอนพักผ่อน อยู่ดีๆ ก็ต้องขยับใช้เรี่ยวแรง ทำให้ระบบประสาทถูกเปิดใช้งานอย่างรวดเร็ว ยิ่งเป็นผู้สูงอายุด้วยแล้วความสามารถในการปรับตัวก็จะยิ่งช้าลง นี่แหละทำให้เกิดความดันโลหิตสูง  อีกประการหนึ่ง คือ  หลังจากร่างกายนอนพักอย่างเต็มที่ทั้งคืน เลือดจะมีความหนืดมากขึ้น ทำให้มีโอกาสเส้นเลือดอุดตันเพิ่มมากขึ้น และอาจจะเกิดสถานการณ์เลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

ดังนั้น สิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เส้นเลือดอุดตัน คลอเรสเตอรอลสูง หรือสำหรับคนที่อายุมากกว่า 40 ปี ต้องระวัง เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าสิ่งแรกที่ต้องทำ ไม่ใช่การยืนขึ้น! 





1. ใช้เวลา 10 นาทีปลุกให้ร่างกายตื่น
ผู้อำนวยการสถาบันแพทย์แผนจีนด้านเนื้องอก ดอกเตอร์หวังเจ๋อหมินบอกว่าเขามีข้อปฏิบัติที่ตัวเองต้องทำทุกเช้า และวิธีเหล่านี้อ้างอิงจากทฤษฎีและมีผลยืนยัน ทุกๆคนสามารถลองทำได้

– นวดท้อง 2 นาที
คุณหมอหวังบอกว่า สิ่งแรกที่เขาทำหลังตื่นนอนทันทีไม่ใช่ลุกขึ้น แต่เป็นการนวดท้อง เพราะเวลานวดท้องจะทำให้ท้อง ม้าม ถุงน้ำดีและอวัยวะอื่นๆที่สัมผัสถึงได้รับการกระตุ้น ดังนั้นการนวดท้องอย่างสม่ำเสมอจะทำให้อวัยวะบริเวณช่องท้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ





คุณหมอยังแนะนำว่า : “ตอนที่คุณย่าผมยังมีชีวิตอยู่ท่านปวดท้อง ก็เลยใช้วิธีนี้ในการช่วยรักษา แล้วโดยไม่รู้ตัวท่านก็หายปวดท้องซะอย่างนั้น ท่านพบว่าการนวดท้องทุกวันทำให้หลับสบาย ก็เลยทำมาอย่างต่อเนื่อง บางทียังนวด 20-30 นาทีก่อนนอนด้วย แล้วท่านก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบด้วยวัย 99 ปี”

วิธีการ

วางสองมือคว่ำลงบริเวณหน้าอก ค่อยใช้นิ้วมือนวดช้าๆพร้อมเลื่อนลงไปจนถึงใต้สะดือแล้วเลื่อนกลับขึ้นมาทำซ้ำ 20 รอบ

– นวดจุดฝังเข็ม 5 นาที


คุณหมอเล่าว่า “หลายวันก่อนคุยกับคุณยายวัย 103 ปีคนนึง ท่านเล่าว่าทุกเช้าหลังตื่นนอนท่านจะนวดบริเวณจุดฝังเข็ม 30 นาทีก่อนลุกจากเตียง วิธีการนี้ไม่ยากสำหรับคนแก่ แต่สำหรับวัยทำงานแล้ว แค่นวดบริเวณ จู๋ซานหลี่ (足三里), ซานอินเจียว (三陰交) , ฉวูฉือ (曲池), เห๋อกู่ (合谷), และเน่ยกวาน (內關穴) เพียง 3 นาทีก็พอแล้ว”




วิธีการ

ใช้นิ้วโป้งกดบริเวณจุด จู๋ซานหลี่ (足三里), ซานอินเจียว (三陰交) , ฉวูฉือ (曲池), เห๋อกู่ (合谷), และเน่ยกวาน (內關穴) ประมาณ 1 นาที ต้องนวดทั้งสองด้าน



-ขยับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน 3 นาที
ช่วงฤดูหนาวกลางวันสั้น กลางคืนยาวนาน และเพื่อให้พลังหยางมีเพียงพอ แพทย์แผนจีนเชื่อว่า กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานสามารถเพิ่มเพิ่มพลังหยางได้



วิธีการ

นอนราบบนพื้นโดยที่สองขาแยกประมาณไหล่ วางมือสองข้างแนบลำตัวตามธรรมชาติ ปล่อยร่างกายตามสบาย แล้วโฟกัสที่กล้ามเนื้อเชิงกราน ปล่อยให้มันขยาย แล้วก็ขมิบให้หดตัว ทำซ้ำไปมา 3 นาที



2. ดื่มน้ำหนึ่งแก้วเพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการนอนหลับ คุณหมอเกาซีเหิง แนะนำว่า : การดื่มน้ำในตอนเช้า 1 แก้วสำคัญมาก มันจะช่วยปลุกร่างกายของคุณให้ตื่น บอกว่าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว

เวลากลางคืนขณะนอนหลับร่างกายจะสูญเสียน้ำผ่านทางปัสสาวะ, ผิวหนัง, และลมหายใจ เมื่อตื่นนอนจึงอยู่ในภาวะขาดน้ำ คืนๆหนึ่งร่างกายจะสูญเสียน้ำประมาณ 450 มิลลิลิตร การดื่มน้ำในตอนเช้าสามารถเข้าไปทดแทนได้

บางคนชอบดื่มน้ำเย็นในตอนเช้า เพราะเข้าใจว่าอย่างนี้ถึงจะปลุกร่างกายได้ แต่จริงๆแล้วการทำอย่างนั้นผิด เนื่องจากเวลานั้นกระเพาะและลำไส้ไม่มีอาหาร น้ำที่ร้อนหรือเย็นเกินไปจะไปกระตุ้นกระเพาะ ทำให้เกิดภาวะไม่เหมาะสม หลังตื่นนอน ควรดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้อง ในเวลาอากาศเย็นก็สามารถดื่มน้ำอุ่น



วิธีการ

แนะนำว่าให้วางน้ำอุ่นหนึ่งแก้วไว้บนหัวเตียง ถ้ากลัวเย็นก็ใช้แก้วเก็บความร้อน หลังจากทำการนวดตามข้อ 1 เสร็จแล้วก็ดื่มน้ำ 1 แก้ว

3. เปิดโคมไฟบริเวณหัวเตียงเพื่อปลุกดวงตา
ถ้าทำสองข้อด้านบนไม่ได้ ก็ยื่นแขนไปเปิดไฟหัวเตียง ถ้าอากาศดีก็เปิดหน้าต่าง ให้แสงเข้ามา ก็จะรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น

ย้ำอีกครั้งสำหรับทุกท่านที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เส้นเลือดอุดตัน คลอเรสเตอรอลสูง หรือพูดง่ายๆว่าสำหรับคนที่อายุมากกว่า 40 ปี อย่าลืมทำตามคำแนะนำ



ขอบคุณข้อมูลจาก liekr