6 จุดหมายเที่ยวต่างแดน ตามรอยซีรีส์ดัง

2018-01-29 18:05:40

6 จุดหมายเที่ยวต่างแดน ตามรอยซีรีส์ดัง

Advertisement

เพราะการเดินทางไม่ได้ให้เพียงแค่ความสนุกและการพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดประสบการณ์ เรียนรู้และรับพลังใหม่ๆ ให้กับชีวิต ต้นปีแบบนี้หลายคนอาจจะกำลังวางแผนท่องเที่ยวเที่ยวกันอยู่ หากใครที่ยังไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอน เว็บไซต์นิว 18 และ Netflixขอเสนอ 6 จุดหมายปลายทางในต่างแดนที่กำลังมาแรงในปี 2018 นี้ไว้ให้เป็นไอเดียช่วยในการตัดสินใจ


เริ่มกันที่ สหราชอาณาจักรหรือประเทศอังกฤษ หนึ่งในประเทศผู้ทรงอิทธิพลของโลกที่อยู่ในบั๊กเก็ตลิสต์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นที่ที่อัดแน่นไปด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังบักกิงแฮมและดาวนิงสตรีทที่เห็นกันในเรื่อง เดอะ คราวน์ (The Crown) รวมทั้งธรรมชาติและภูมิประเทศที่หลากหลายตามแต่ละภูมิภาคของเกาะ ทั้งชายหาด ทุ่งหญ้ารวมไปถึงป่าเขาแบบในเรื่อง โลกมันห่วยช่วยไม่ได้ (The End of the F***ing World) นอกจากนี้ประเทศอังกฤษยังมีความทันสมัยและถือเป็นศูนย์กลางของธุรกิจในยุโรปอีกด้วย อย่าให้ฟ้าฝนที่ไม่แน่นอน หยุดคุณไม่ให้ไปเยือนดินแดนแห่งนี้


นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เหมือนกับเพลงของเจซีและเอลิเชีย คีย์ ที่ร้องว่า “เมืองที่ความฝันถูกสร้างขึ้น และไม่มีอะไรที่คุณไม่สามารถทำได้” แน่นอนว่าเพลงนี้พูดถึงมหานครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้คนนับล้านคนต่อปีเดินทางไปเยี่ยมชมมหานครที่ไม่เคยหลับใหลแห่งนี้ ตึกสูงระฟ้า แท็กซี่สีเหลืองและเทพีเสรีภาพถือเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ นิวยอร์กยังเป็นเมืองที่แฟนๆไปตามรอยซีรีส์ยอดฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอพาร์ตเม้นท์ของมอนิก้าใน เฟรนส์ (Friends) หรือแฟนๆ แก๊งฮีโร่จาก เดอะ ดีเฟนเดอร์ส (The Defenders) ที่ไปเดินเล่นในเซ็นทรัลพาร์ค นิวยอร์กคือเมืองที่ทุกคนจะต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิตก่อนตายด้วยความที่มันมีทุกอย่างจริงๆ 


ต่อกันที่ เกาหลีใต้ ช่วงหลายปีมานี้ ประเทศเกาหลีใต้เป็นจุดหมายปลายทางของคนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนๆ เพลงและซีรีส์เกาหลีที่ครองใจตลาดเมืองไทยมายาวนาน ยิ่งตอนนี้ตำนานไซอิ๋วฉบับเกาหลี (Korean Odyssey) กำลังไต่ระดับความดังในไทย คนยิ่งอยากไปเกาหลีมากขึ้นไปอีก เกาหลีมีหลากหลายฤดูกาล เที่ยวได้ตลอดปีแล้วแต่ความสนใจ จะไปดูใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือเล่นสกีในหน้าหนาวก็ได้หมด นอกจากความทันสมัยของตึกรามบ้านช่องและตัวเมืองใหญ่ๆ แล้ว เกาหลียังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่ถูกสืบทอดมาอย่างยาวนานและผสมผสานกลมกลืนกับชีวิตของคนทุกคน




ญี่ปุ่น หากถามว่าอะไรคือจุดเด่นของประเทศญี่ปุ่น คงจะตอบได้ยากมากๆ เพราะดินแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้มีมากกว่าแค่ออนเซนและปลาดิบ แม้ว่าความเจริญทางเทคโนโลยีจะมีอยู่ในทุกที่ แต่วัฒนธรรมที่เก่าแก่ยังคงฝังรากลึกอยู่ในทุกรุ่น เช่นเรื่องมารยาท ความนอบน้อมถ่อมตน ที่คนไทยส่วนใหญ่จะนิยามว่า “ญี่ปุ่นที่มันญี่ปุ่นจริงๆ” อาหารญี่ปุ่นยังเป็นหนึ่งในครัวหลักของโลก ทั้งคาวและหวาน หากได้ชมรายการร้านอาหารเที่ยงคืน: บันทึกโตเกียว (Midnight Diner: Tokyo Stories) และคันทาโร่ เซลล์แมนนักชิมของหวาน (Kantaro: The Sweet Tooth Salary Man) ยิ่งทำให้อยากไปเยือนดินแดนอาทิตย์อุทัยนี้เลย การเดินทางไปญี่ปุ่นจากไทยก็ง่ายมาก มีไฟลท์บินไปทุกวันและไม่ต้องขอวีซ่าอีกด้วย 


มาถึง สเปน ประเทศทางยุโรปใต้ที่มีมนต์เสน่ห์อยู่ทุกมุมเมือง ทั้งภาษา วัฒนธรรม เสียงเพลงและผู้คน สิ่งเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นที่ทำให้ประเทศแห่งวัวกระทิงนี้เป็นจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลก เมืองใหญ่ๆ ของสเปนได้แก่ มาดริด บาร์เซโลน่าและบาร์เลนเซีย เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องที่สวยงามแปลกตา โดยเฉพาะผังเมืองของบาร์เซโลน่าที่แปลกตาและน่ามหัศจรรย์ ขณะเดียวกันในเขตชนบทที่ถูกสาดด้วยแสงแดดอ่อนๆ ในฤดูใบไม้ผลิและดอกไม้สีสันสดใส ให้ความรู้สึกเหมือนต้องมนต์สะกดเลยล่ะ ใครที่เป็นแฟนเรื่องเคเบิ้ล เกิร์ลส์ (Cable Girls) ต้องจดประเทศสเปนไว้ในลิสต์เลยล่ะ




ปิดท้ายกันที่ เยอรมนี ประเทศเยอรมนีไม่ได้มีดีแค่เบียร์ ไส้กรอกรมควันและปราสาทอายุนับร้อยปี แต่ยังเป็นแหล่งรวมประวัติศาสตร์ และอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ชั้นยอดอีกด้วย ประเทศเยอรมนีมีเมืองใหญ่ๆ กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยแต่ละเมืองก็มีเรื่องเล่าและกลิ่นอายของความเป็นเยอรมันที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นเมืองมิวนิก ที่ตั้งของปราสาทนอยชวานชไตน์อันโด่งดัง รายล้อมไปด้วยป่าเขาที่น่าเกรงขามและสวยงาม ยิ่งใครเป็นแฟนเรื่องดาร์ก (Dark) จะอินกับบรรยากาศแบบนี้มาก หรือเมืองโรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg od der Tauber) ที่สวยงามเหมือนในเทพนิยาย ที่มีบ้านเรือนสไตล์เยอรมันแบบโบราณ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากทุกปีเลยล่ะ