"ลาล่า"เล่าเหตุระทึกเกือบโดนยิงทิ้งกลางไร่

2018-01-23 15:55:24

"ลาล่า"เล่าเหตุระทึกเกือบโดนยิงทิ้งกลางไร่

Advertisement

ตั้งใจจะไปทำบุญวันเกิดเพื่อนทั้งทีแต่ดันเกิดเรื่องจนได้ “ลาล่า อาร์สยาม” ผวาหนักขับรถตามจีพีเอสแต่ดันไปเข้าไร่ของชาวบ้าน จ.ราชบุรี จนโดนขู่ด้วยปืนทำเอาอกสั่นขวัญเสีย ซึ่งเจ้าตัวได้เผยถึงเรื่องนี้ว่า



วันนั้นเป็นวันเกิดลูลู่ ปกติเราก็จะไปทำบุญไม่ว่าจะเป็นวัด หรือ สถานสงเคราะห์ต่างๆ อยู่แล้ว ครั้งนี้ก็เลยเลือกไปราชบุรี ตอนแรกจะไปใส่บาตรเช้า ซึ่งในการเดินทางทุกครั้งเราก็ต้องทำการบ้านก่อนว่าเราจะไปสถานที่ตรงนี้เราก็ต้องจิ้มจีพีเอสแล้วว่าใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่ และมันใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง กับ 48 นาที เราก็เลยคิดว่าไปคนเดียวดีกว่า เพราะถ้าไปขึ้นรถที่บ้านลูลู่จะต้องตื่นตี 3 มันเร็วเกินไป เพราะก่อนหน้านี้เคยไปแล้วหลงแบบนี้แล้วด้วยจีพีเอสแต่เราก็ฝืน พอไปมันก็เป็นป่า สุดท้ายก็ไปจนถึง แต่ไปเข้าทางหลังวัด เราก็ชะล่าใจว่าเพราะเราไม่ได้มานาน สงสัยหญ้ามันคงจะขึ้นเยอะไปหน่อย









ซึ่งเราก็เอาบุญจากท่านเจ้าอาวาสที่วัดสมุทรปราการมา ท่านฝากข้าวสารอาหารแห้งมาให้น้องๆ พิการซ้ำซ้อนเพราะเราต้องไปหาน้องๆ อีก รถมันก็หนักมากขับเร็วไม่ได้ กว่าจะไปถึงจุดที่เจอผู้ชายคนนั้นก็ประมาณเกือบ 10 กิโล คิดว่าถ้ายางมันแตกเราจะออกจากจุดนั้นได้ยังไง ตอนนั้นเราพยายามจะถอยหนีออกให้ได้ ผู้ชายคนนั้นก็เดินเข้ามา เราก็คิดว่าเขาจะถามว่าหนูหลงทางเหรอ แต่เขากลับบอกว่าถ้าผมมีปืนอยู่ในมือผมยิงคุณแล้ว เขาก็พูดปกติเลยนะ เหมือนไม่ตั้งใจมาขู่ แต่เสียงที่พูดมันเหมือนคำทักทายนะ แต่สิ่งที่ทำให้เราน้ำตาแตกคือที่บอกว่าถ้ามีปืนอยู่ในมือ แต่ที่เขาสะพายอยู่นั่นก็ปืนยาวนะ อาจจะไว้ใช้ยิงนก ก็คิดว่าถ้าเขาเจตนาร้ายกับเราจริง เขาน่าจะใช้ปืนนั้นยิงเราแล้วหรือเปล่า เขาก็พยายามพูดบอกเราดีๆ นะ แต่เราก็กลัวและอยู่คนเดียว เราก็อธิบายไปว่าจีพีเอสพาเข้ามา หนูไม่มีเจตนาจะเข้ามาตรงนี้ ในใจตอนนั้นหน้าพ่อหน้าแม่ลอยเข้ามา และคิดอีกอย่างหนึ่งคือพระอาจารย์ท่านฝากบุญมา และเราตั้งใจจะไปทำบุญกับลูลู่ และเอาบุญนี้ไปส่งให้น้องพิการซ้ำซ้อนที่เราตั้งใจมาก เราก็คิดขอให้บุญนี้นำพาไปส่งให้ถึงน้อง ก็พยายามคุยกับเขาดีๆ และถอยจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด แต่มันทำอะไรที่รวดเร็วไปกว่านั้นไม่ได้ เพราะลาล่าอยู่คนเดียวและมันต้องตั้งสติ และทุกคนก็ถามว่าทำไมไม่โทรหาไม่ติดต่อใคร แต่ตอนนั้นมันติดต่อใครไม่ได้เลย เรามีสัญญาณอยู่คนเดียว แต่คนที่อยู่วัดไม่มีสัญญาณเลย คือเส้นทางที่เราไปมันเหมือนทางไปสวนไปนาบ้านเรามันก็แค่มีรถสวนผ่าน แต่ตอนนั้นไม่มีเลย เราก็พยายามถอยออกมาเส้นที่มีคนที่สุดแล้ว แต่จีพี่เอสบอกว่าอีก 3 กิโลและอีก 10 นาทีถึง เราเลยพยายามอยู่แถวๆ นั้น และในเมื่อติดต่อใครไม่ได้ ก็เลยไลฟ์สดเลยดีกว่า ทุกคนจะได้รู้ว่าเราอยู่ตรงนี้ และถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเราทุกคนจะได้ตามหาเราเจอ



เขาบอกไหมว่ามันเป็นที่ของเขาหรืออะไร ?
ที่จำได้เขาบอกเพิ่งมีเรื่องหรือมีปัญหากับอะไรก็ไม่รู้ กลายเป็นเราเป็นคนแปลกหน้าที่เข้าไป ก็ไม่รู้ว่าเขาระแวงใครหรือเปล่า รถก็เป็นทะเบียนต่างจังหวัดด้วย พอหลงเข้าไปเขาก็คงใช้วิธีป้องกันตัวของเขาด้วยการใช้คำพูดแบบนี้ เขาก็ไม่ได้ช่วยบอกทางออก เราออกเอง เขาเหมือนพยายามที่จะพูดคำเดิม คือตอนลดกระจกลงครั้งแรกเพราะเราเข้าใจว่าเขาจะมาบอกทางเรา ถ้ารู้อย่างนั้นจะไม่ลดกระจกลงเลย เพราะไม่รู้ว่าเขาจะชกเราหรือจะทำอะไรไปมากกว่านี้หรือเปล่า เขาก็เหมือนจะขับรถนำเราออกไปถนนใหญ่ แล้วเขาก็หายไป แล้วเขาก็กลับมาและใช้คำพูดเดิมอีกว่าถ้ามีปืนอยู่ในมือนี่โดนยิงไปแล้ว เขาก็พูดคำเดิมอีก เราก็ค่อยๆ ขับออกมาค่ะ เพราะมันขับเร็วไม่ได้ มันมีกิ่งไม้ยาวๆ เข้าไปเสียบใต้ท้องรถ เราก็กลัวมันโดนเพลารถและกลัวโดนพัดลมแอร์ เรากลัวทุกอย่างเลย ตอนนั้นเครื่องก็ดังกึกๆ ตลอดทาง ก็ภาวนาว่าวันนี้ตั้งใจมาทำบุญขอให้ลูกหลุดจากตรงนี้ เพราะฝืนรถออกไปเกือบ 10 กิโลฯ กว่าจะถึงถนนใหญ่





มีไปแจ้งความด้วยหรือเปล่า ?
ไม่ได้แจ้งความค่ะ เพราะด้วยลักษณะของเขาไม่มีท่าทางตั้งใจจะมาฆ่าเรา ไม่ได้มานักเลง ถ้าเขาจะปล้นเรา เราลดกระจกขนาดนั้นเขาน่าจะทำอะไรได้มากกว่านั้น ลาล่าคิดว่าเขาน่าจะต้องการบอกเรา แต่เป็นคำพูดที่น่าตกใจสำหรับเรา และเขาก็มีปืนอยู่จริงๆ ก็คิดว่าข่าวคงกระจายออกไปเยอะแล้ว ก็อยากจะใช้ช่องทางนี้เป็นกระบอกเสียงหรือเป็นอุทาหรสอนใจในการเดินทาง





เราเพิ่งโดนรถชนด้วย?
ใช่ ตอนนั้นรถเราจอดขวางอยู่ เหมือนเขาจะเข็นแล้วไม่พ้น ก็เพิ่งไปเคลมมา เพิ่งจะเคลียร์สีเสร็จถามว่าปีชงไหมก็ไม่นะ ระกาไม่ชงนะ ทำบุญเราก็ทำเยอะนะ คิดว่าเป็นจังหวะมากกว่า