เผยสันดอนทรายโผล่เขื่อนเจ้าพระยา ไม่ใช่ตัวชี้วัดปีนี้น้ำแล้ง?

สำนักงานชลประทานที่ 12 เผยน้ำในเขื่อนเจ้าพระยายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ สันดอนทรายที่โผล่เป็นเพียงปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ เป็นการเริ่มส่งสัญญาณเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ยังคงอยู่ในระดับมาตรฐานกักเก็บ 15 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยวัดได้ 15.67 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าตลิ่ง 0.67 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนวัดได้ 6.01 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 10.33 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ต่ำมาก จนสามารถมองเห็นท้องแม่น้ำ และสันดอนทรายที่โผล่ขึ้นเป็นจุดๆ หลายจุดที่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา แต่การที่สันดอนทรายโผล่นั้นเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ เป็นการเริ่มส่งสัญญาณว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง อาจทำให้ประชาชน และเกษตรกรในพื้นที่เพาะปลูกเริ่มวิตกกังวลและตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ดังกล่าว

ด้าน นายเนรมิต เทพนอก ผอ.ส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 เผยว่า ขณะนี้น้ำที่ระบายออกท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในเกณฑ์ 90 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นภาวะจะต้องบริหารน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภคและรักษาระบบนิเวศน์ รวมทั้งผลักดันน้ำเค็มเป็นหลัก โดยมีเกณฑ์กำหนดว่า สถานีสูบน้ำที่สำแล ต้องมีความเค็มไม่เกิน 0.25 กรัมต่อลิตร หากภาวะความเค็มเกิน จำเป็นที่ต้องระบายน้ำออกท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ระบายอยู่ที่ 90 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ระบายอยู่ที่ 70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ถือว่าขณะนี้อยู่ในภาวะปกติ ส่วนเหนือเขื่อนเจ้าพระยารักษาระดับน้ำอยู่ที่ 15.80 – 16.00 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง สำหรับการทำนาในพื้นที่ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณเหนือเขื่อนฯ จะมีการระบายออกทั้ง 5 คลอง ได้แก่ แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำน้อย คลองมะขามเฒ่าอู่ทอง คลองชัยนาท-ป่าสัก และคลองชัยนาท-อยุธยา ทางกรมชลประทานได้วางแผนให้เริ่มทำตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา 5,170,000 ไร่ หากรวมพืชอื่นด้วยประมาณ 6 ล้านไร่เศษ