กลุ่มเหยื่อผู้เสียหายจากแชร์ลูกโซ่เข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังจากนำเงินลงทุนกับบริษัทเหมืองแร่ทองคำ ในประเทศมาเลเซีย แต่ไม่ได้รับเงินปันผลคืนตามที่บริษัทกล่าวอ้าง โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย พาผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่ ที่ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนในเหมืองทองคำ Kesuma kota Thailand ( kkt ) โดยอ้างว่าไปลงทุนในเหมืองทองคำ ด้วยการเสนอขายหุ้น ในราคา 2,800 บาท/หุ้น ปันผล สัปดาห์ละ 200-300 บาท ทุกสัปดาห์โดยจะเงินต้นคืน 200% ในสัปดาห์ที่ 17
สมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้เคยเตือนประชาชนอย่าให้ลงทุนแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อ ขณะนี้ kkt เลื่อนจ่ายมาเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว จนมีผู้เสียหายเดือดร้อนจำนวนมาก ได้รวบรวมตัวแทน 80 คน จากสมาชิกหลายหมื่นคน เข้าร้องทุกข์ต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิด และ ติดตามทรัพย์สินมาคืนให้กับผู้เสียหายอย่างเร็ว
นายธนพงษ์ รู้คงประเสริฐ ผู้เสียหาย บอกว่า ลงทุนกับบริษัทเหมืองแร่ด้วยเงินกว่า 6 ล้านบาท เพราะจากการศึกษาหน้าเวบไซต์ และคนรู้จักที่ลงทุนแล้วได้กำไร จึงเชื่อมั่นว่าบริษัทไม่ได้หลอกลวงเพราะมีคนได้เงินจริงตามที่บริษัทกล่าวอ้าง ส่วนตัวได้หลายครั้ง และมีโอกาสได้ไปที่เหมืองทองคำ ในประเทศมาเลเซีย จึงมั่นใจว่าจะไม่หลอกลวงแน่นอน จนกระทั่งระยะหลังบริษัทบ่ายเบี่ยงที่จะจ่ายเงินหลายครั้งจนผิดสังเกตจึงได้รวบรวมกลุ่มผู้เสียหายเพื่อส่งหนังสือเข้าร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการกับผู้ทำผิด
ขณะที่ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ บอกว่า รับเรื่องร้องเรียนไว้ และจะเร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขเยียวยาปัญหานี้ให้เร็วที่สุด โดยคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3-6 เดือน